สาเหตุที่ต้องทำการพ่นเคลือบผิวแข็ง HVOF
ปัญหาการสึกกร่อนเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญในอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะในกระบวนการที่มีวัสดุขัดถู เช่น ทรายหรือสารกัดกร่อนที่ไหลผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ การเสื่อมสมรรถนะของปั๊มและชิ้นส่วนสำคัญสามารถก่อให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการซ่อมบำรุงและการหยุดทำงานของระบบ การเคลือบพื้นผิวด้วย HVOF (High Velocity Oxy-Fuel) ด้วยทังสเตนคาร์ไบด์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเหล่านี้ กระบวนการนี้ได้รับการพิสูจน์จากการใช้งานจริงว่าให้ประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านการป้องกันการสึกกร่อนและการเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ในปัจจุบัน กระบวนการเคลือบพื้นผิว HVOF ถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ปิโตรเคมี การผลิตพลังงาน และอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการสัมผัสกับวัสดุขัดถูและสารเคมีที่รุนแรง
HVOF คืออะไร?
HVOF หรือ High Velocity Oxy-Fuel คือกระบวนการเคลือบพื้นผิวที่ใช้เปลวไฟความเร็วสูงในการพ่นผงวัสดุ เช่น ทังสเตนคาร์ไบด์ ลงบนพื้นผิวของชิ้นงาน กระบวนการนี้มีจุดเด่นในการสร้างชั้นเคลือบที่มีคุณสมบัติพิเศษ ได้แก่:
-
ความแข็งแกร่งสูง: ชั้นเคลือบมีความแข็งมากกว่า 1200 HV ทำให้ต้านทานการสึกกร่อนได้ดีเยี่ยม
-
การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม: ชั้นเคลือบมีความหนาแน่นสูงและยึดติดกับวัสดุพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ความทนทานต่อการกัดกร่อน: สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีรุนแรงได้
นอกจากนี้ กระบวนการ HVOF ยังช่วยรักษาคุณสมบัติของวัสดุพื้นฐานเนื่องจากมีการควบคุมอุณหภูมิในระหว่างการเคลือบ ช่วยลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของวัสดุเดิม
คุณสมบัติพิเศษของ HVOF ด้วยทังสเตนคาร์ไบด์
ทังสเตนคาร์ไบด์ถือเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงสุดในกระบวนการเคลือบพื้นผิว เนื่องจาก:
-
ความทนทานต่อการสึกกร่อน: ช่วยป้องกันการสึกกร่อนจาก 3-body abrasion ซึ่งเป็นการสึกกร่อนที่รุนแรงที่สุดในอุตสาหกรรม
-
การต้านทานต่อแรงกระแทก: ช่วยเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกระแทกสูง
-
การทนต่ออุณหภูมิสูง: ชั้นเคลือบยังคงคุณสมบัติที่ดีในสภาวะที่มีความร้อนสูง
ตัวอย่างการใช้งานที่เหมาะสม:
-
ปั๊มในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี: เช่น ใบพัดและชิ้นส่วนที่สัมผัสกับทรายและน้ำมันดิบ
-
ชิ้นส่วนในโรงไฟฟ้า: เช่น ชิ้นส่วนปั๊มแรงดันสูงที่ต้องรับแรงเสียดสีและความร้อน
-
อุตสาหกรรมเหมืองแร่: เช่น อุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับวัสดุที่มีความแข็งสูง
Case study #1
ชิ้นส่วน: ปลอกเพลาปั๊ม
ปัญหา: บ่าซีลของปลอกโดนทรายที่มาในระบบกัดเป็นร่อง
ข้อมูลการใช้งานเดิม
วัสดุงาน: Stainless 420
การชุบ: ชุบแข็ง + Hardchrome plating
ความแข็งผิว: 650-750 HV
ความหนาผิว: 0.05-0.1มม
อายุการใช้งาน: 1.5 เดือน

Figure 1
สภาพผิวปลอกขึ้นรูปจาก SS420+Hardchrome หลังใช้งาน 30 วัน
ข้อมูลการใช้งานหลังพ่นพอก
วัสดุงาน: Stainless 420
การชุบ: HVOF Coating
ความแข็งผิว: 1,100-1,300 HV
ความหนาผิว: 0.2-0.5มม
อายุการใช้งาน: 10 เดือน

Figure 2
สภาพผิวปลอกขึ้นรูปจาก SS420+HVOF หลังใช้งาน 151 วัน
Case study #2
ชิ้นส่วน: ใบพัดปั๊ม
ปัญหา: ใบพัดปั๊มโดนทรายที่มาในระบบกัดเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่ใบ
ข้อมูลการใช้งานเดิม
วัสดุงาน: Stainless 316
การชุบ: –
ความแข็งผิว: –
ความหนาผิว: –
อายุการใช้งาน: 3 เดือน

Figure 1
สภาพใบพัดหลังใช้งานได้ 3 เดือน
ข้อมูลการใช้งานหลังพ่นพอก
วัสดุงาน: Stainless 420
การชุบ: HVOF Coating
ความแข็งผิว: 1,100-1,300 HV
ความหนาผิว: 0.2-0.5มม
อายุการใช้งาน: 24 เดือน

Figure 2
สภาพใบพัดที่ผ่านการพ่น HVOF และใช้งาน หลังใช้งาน 7 เดือน
ประโยชน์ของการเคลือบ HVOF
การเคลือบพื้นผิวด้วย HVOF มีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นดังนี้:
-
ลดต้นทุนการซ่อมบำรุง: ความทนทานที่สูงช่วยลดความถี่ในการเปลี่ยนชิ้นส่วนและซ่อมแซม
-
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: อุปกรณ์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงัก
-
ยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วน: ช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานของอุปกรณ์อย่างมีนัยสำคัญ
-
เพิ่มความปลอดภัยให้ระบบ: ลดความเสี่ยงจากความล้มเหลวของอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการเคลือบ HVOF ของเรา
-
เทคโนโลยีขั้นสูง: เราใช้อุปกรณ์ HVOF ที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม
-
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ: ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและประสบการณ์ยาวนาน
-
การพัฒนากระบวนการเฉพาะ: เราออกแบบและพัฒนากระบวนการให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
-
ผลการทดสอบที่พิสูจน์ได้: ชิ้นงานทุกชิ้นได้รับการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่จำลองการใช้งานจริง